โคล พาล์มเมอร์ เป็นชื่อที่แฟนบอลเชลซีและคอบอลทั่วโลกเริ่มพูดถึงกันมากขึ้นในช่วงหลัง ไม่ใช่แค่เพราะทักษะในสนามที่โดดเด่น แต่ยังรวมถึงบุคลิกสงบนิ่งและความมุ่งมั่นที่หาตัวจับได้ยากในนักเตะวัยเดียวกัน ด้วยวัยเพียง 22 ปี เขาก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในทีมเชลซี และได้รับฉายาจากแฟนบอลชาวไทยว่า “น้องหนาว” ซึ่งสะท้อนถึงความเยือกเย็นและนิสัยที่ไม่หวั่นไหวแม้อยู่ภายใต้ความกดดันสูงสุดในสนาม
พาลเมอร์ไม่ได้เป็นเพียงนักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก แต่ยังเป็นผู้เล่นที่มีความนิ่งในช่วงเวลาสำคัญ เช่น การยิงจุดโทษที่แม่นยำและการสร้างสรรค์เกมที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ทุกจังหวะการเล่นของเขาแสดงให้เห็นถึงการควบคุมอารมณ์และความเป็นมืออาชีพที่เกินวัย ในบทความนี้ เราจะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับเขาตั้งแต่จุดเริ่มต้นของเส้นทางการค้าแข้งในเมืองแมนเชสเตอร์ สู่บทบาทใหม่ในฐานะความหวังของเชลซี และเหตุผลว่าทำไมแฟนบอลถึงมองว่าเขาอาจเป็นตำนานคนต่อไปของสิงห์บลูส์ คนนี้ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งธรรมดา แต่เป็นดาวที่กำลังพุ่งสู่อนาคตอันสดใสอย่างแท้จริง!
โคล พาล์มเมอร์ จุดเริ่มต้นของเส้นทางฝันจากแมนเชสเตอร์สู่เวทีโลก
วัยเด็กและครอบครัว เมล็ดพันธุ์แห่งความฝัน
โคล เจอร์เมน พาลเมอร์ ลืมตาดูโลกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เมืองที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งฟุตบอล พาลเมอร์เติบโตมาในครอบครัวชนชั้นกลางที่เรียบง่าย พ่อของเขาเคยเป็นนักฟุตบอลในลีกท้องถิ่น แม้ไม่ได้โด่งดัง แต่ความรักในฟุตบอลของพ่อก็ถูกถ่ายทอดมาสู่ลูกชายอย่างเต็มเปี่ยม
ในวัยเด็กพาลเมอร์เป็นเด็กเงียบ ๆ ที่ชอบเก็บตัว แต่เมื่อได้อยู่กับลูกฟุตบอล ทุกอย่างเปลี่ยนไป เขามีความสุขกับการซ้อมทุกวันในสวนสาธารณะกับพ่อ ขณะที่แม่ก็เป็นกำลังใจสำคัญที่คอยสนับสนุนเขาไม่ว่าจะในยามสุขหรือทุกข์ ความร่วมมือของครอบครัวกลายเป็นรากฐานสำคัญที่ผลักดันให้พาลเมอร์เริ่มเดินตามความฝันของตัวเอง
เมื่อพรสวรรค์ฉายแสง เส้นทางสู่อคาเดมี
พรสวรรค์ด้านฟุตบอลของพาลเมอร์เริ่มเจิดจ้าตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ฝีเท้าที่โดดเด่นทำให้เขาเป็นที่สนใจของทั้งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สองทีมยักษ์ใหญ่ประจำเมือง แต่หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบ ครอบครัวของพาลเมอร์ตัดสินใจเลือกฝากฝังอนาคตของเขาไว้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เหตุผลไม่ใช่เพียงแค่ชื่อเสียงของสโมสร แต่ยังรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและแนวทางการพัฒนานักเตะเยาวชนที่เป็นระบบ ครอบครัวเชื่อมั่นว่าซิตี้คือสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดที่จะทำให้พาลเมอร์เติบโตเป็นนักฟุตบอลที่ครบเครื่อง เมื่อเข้าร่วมอคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ พาลเมอร์เริ่มต้นจากทีม U-8 และค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมา เขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพที่เกินอายุ จนเป็นที่ยอมรับจากโค้ชและเพื่อนร่วมทีมในทุกระดับ ฝีเท้าและความคิดสร้างสรรค์ของเขากลายเป็นสิ่งที่ทีมขาดไม่ได้ตั้งแต่วัยเยาว์
โคล พาล์มเมอร์ เส้นทางจากดาวรุ่งสู่ความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก
เส้นทางของโคล พาลเมอร์ในวงการฟุตบอลเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความสำเร็จที่เกินวัย การย้ายมาร่วมทีมเชลซีไม่เพียงช่วยให้เขาพัฒนาตัวเอง แต่ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาคือหนึ่งในนักเตะที่อนาคตสดใสที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นความหวังใหม่ที่แฟนบอลสิงห์บลูส์ไม่อาจขาดได้ในทีมชุดปัจจุบัน!
ความสำเร็จในทีมเยาวชน: สร้างชื่อในอคาเดมีแมนเชสเตอร์ ซิตี้
พาลเมอร์ เริ่มต้นเส้นทางนักฟุตบอลด้วยความโดดเด่นในทีมเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะในรุ่น U-18 เขากลายเป็นหัวใจสำคัญของทีม และได้รับปลอกแขนกัปตันในฤดูกาล 2019/2020 ที่ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเขา ฤดูกาลนั้น พาลเมอร์ลงสนามในพรีเมียร์ลีก U-18 ทั้งหมด 14 นัด ทำได้ถึง 15 ประตู และยังจ่ายอีก 5 แอสซิสต์ ความสามารถของเขาไม่เพียงช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก คัพ แต่ยังทำให้เขามีส่วนร่วมกับ 20 ประตูจาก 56 ประตูที่ทีมทำได้
ฟอร์มอันร้อนแรงในทีมเยาวชนดึงดูดความสนใจของ เป๊ป กวาดิโอล่า ยอดกุนซือของทีมชุดใหญ่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนพาลเมอร์ได้รับโอกาสประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ในปี 2020 ในศึกคาราบาวคัพ เกมนั้น เขาลงเล่นเต็มเกมและช่วยทีมเอาชนะเบิร์นลีย์ 3-0 เป๊ปยังเคยยกย่องว่า พาลเมอร์เป็นนักเตะที่มีทัศนคติยอดเยี่ยม และสามารถเล่นในแนวรุกได้หลากหลายตำแหน่ง ตั้งแต่ริมเส้น เพลย์เมกเกอร์ ไปจนถึงกองหน้าตัวหลอก
ย้ายมาชลซี สู่การเริ่มต้นบทใหม่ในลอนดอน
ในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 พาลเมอร์ตัดสินใจย้ายจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมเชลซีด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ พร้อมแอดออนอีก 5 ล้านปอนด์ และเซ็นสัญญาระยะยาว 7 ปี การย้ายทีมครั้งนี้ไม่เพียงแค่สร้างความฮือฮาในวงการฟุตบอล แต่ยังเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขาที่ต้องการพิสูจน์ตัวเอง
พาลเมอร์กล่าวในการเปิดตัวว่า “การมาที่เชลซีคือโอกาสที่น่าตื่นเต้น มันคือโปรเจ็กต์ที่ท้าทายและมีพลังหนุ่มมากมาย ผมตั้งใจจะพัฒนาตัวเองและสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่นี่” แม้ช่วงแรกเขาต้องเริ่มจากการเป็นตัวสำรอง แต่ในเวลาไม่นาน ความสามารถของเขาก็เริ่มฉายแสงในสนาม
ฟอร์มเด่นกับเชลซี: สู่หัวใจของทีมสิงห์บลูส์
ฤดูกาลแรกในสีเสื้อเชลซี พาลเมอร์ปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเริ่มต้นจากการลงเล่นเป็นตัวสำรอง แต่เขาก็แสดงให้เห็นถึงความสำคัญในทุกครั้งที่ได้รับโอกาส โดยเฉพาะเกมพบกับเบิร์นลีย์ที่เขายิงจุดโทษเป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกกับเชลซี
หลังจากนั้น เขาก็ยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างถาวร ด้วยผลงานการยิงจุดโทษที่เฉียบขาด ยิงเข้า 100% จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสถานการณ์กดดัน อีกทั้งเขายังมีส่วนสำคัญในจังหวะสร้างเกมรุกและช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม จนได้รับความไว้วางใจจากแฟนบอลและเอ็นโซ มาเรสกา ผู้จัดการทีม
สไตล์การเล่น โคล พาลเมอร์ ที่สง่างามและเต็มไปด้วยศักยภาพ
สงบนิ่ง เยือกเย็นในทุกจังหวะสำคัญ
หนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้โคล พาลเมอร์แตกต่างจากนักเตะคนอื่น ๆ คือ ความใจเย็นและความนิ่งในสถานการณ์กดดัน ไม่ว่าจะเป็นการยิงจุดโทษที่ต้องอาศัยสมาธิขั้นสูง หรือการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในสนาม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือจุดโทษสุดสำคัญในเกมพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เขายิงผ่านมือเอแดร์สันอย่างเฉียบขาด พร้อมส่งเชลซีตีเสมอในนาทีสุดท้าย หรือเหตุการณ์ที่เขาปล่อยตัวนั่งมองเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทระหว่างเพื่อนร่วมทีมกับคู่แข่งอย่างสงบนิ่ง
ความสงบนิ่งนี้ไม่เพียงทำให้แฟนบอลชาวไทยมอบฉายา “น้องหนาว” ให้เขา แต่ยังทำให้พาลเมอร์ได้รับการยกย่องในฐานะนักเตะพรีเมียร์ลีกที่ควบคุมอารมณ์ได้ดีและมุ่งมั่นในหน้าที่ของตัวเอง เขาเป็นนักเตะที่เลือกจะตอบโต้คำยั่วยุด้วยผลงานในสนาม มากกว่าการใช้อารมณ์
เล่นได้ทุกบทบาทและสร้างสรรค์เกม
พาลเมอร์ไม่ได้มีดีแค่ความนิ่งในสนาม แต่เขายังสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็นปีกซ้าย ปีกขวา เพลย์เมกเกอร์ หรือแม้กระทั่งกองหน้าตัวหลอก (False 9) ความยืดหยุ่นนี้ทำให้เขากลายเป็นอาวุธสำคัญในเกมรุกของเชลซี
การสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมและการอ่านเกมที่ยอดเยี่ยม ก็ยังเป็นอีกหนึ่งจุดเด่น เขาไม่ได้มุ่งเน้นแต่การทำประตูด้วยตัวเอง แต่ยังพร้อมจะจ่ายบอลสำคัญให้เพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ผู้จัดการทีมไว้วางใจ และเพื่อนร่วมทีมชื่นชม
ทัศนคติมุ่งมั่นและพัฒนาไม่หยุดยั้ง
เบื้องหลังความสำเร็จของพาลเมอร์ คือความมุ่งมั่นและการฝึกฝนที่ไม่เคยหยุดยั้ง คำยกย่องจากทั้งเป๊ป กวาดิโอล่า และเอ็นโซ มาเรสกา สะท้อนถึงทัศนคติที่ยอดเยี่ยมของเขา ทั้งสองกุนซือเห็นพ้องกันว่า พาลเมอร์เป็นนักเตะที่ถ่อมตนและพร้อมจะเรียนรู้เสมอ
เป๊ปเคยกล่าวไว้ว่า “พาลเมอร์มีความครบเครื่องและมุ่งมั่นเหมือนฟิล โฟเด้น” ขณะที่มาเรสกาเสริมว่า “เขายังเหมือนเดิมในเรื่องความอ่อนน้อมแม้จะประสบความสำเร็จอย่างมาก” ความคิดเช่นนี้ทำให้พาลเมอร์พัฒนาอย่างต่อเนื่อง และตั้งเป้าหมายที่จะก้าวไปเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่าน้องหนาวคือภาพสะท้อนของนักเตะรุ่นใหม่ที่ครบเครื่อง ทั้งในเรื่องทักษะ ความมุ่งมั่น และความคิดที่เป็นมืออาชีพ ทุกการเล่นของเขาแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสและศักยภาพที่จะกลายเป็นตำนานของเชลซีในอนาคตอันใกล้!
น้องหนาว กำลังสำคัญและความหวังใหม่ของสิงห์บลูส์
ผู้นำในเกมสำคัญ
พาลเมอร์ได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็นนักเตะที่สามารถสร้างความแตกต่างในเกมสำคัญได้อย่างแท้จริง หนึ่งในผลงานที่น่าประทับใจที่สุดของเขาคือการพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อดีตทีมเก่าของเขา ในเกมนั้น เชลซีเสมอซิตี้ 4-4 โดยพาลเมอร์ซัดจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งบอลผ่านมือเอแดร์สันอย่างมั่นใจและคว้ารางวัล Man of the Match ไปครอง
อีกหนึ่งเกมที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในสนาม คือ การพบกับท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ในเกมที่เชลซีตามหลังถึง 0-2 ก่อนที่พาลเมอร์จะโชว์ฟอร์มแหวกแนวรับของสเปอร์สในครึ่งหลัง เรียกจุดโทษ และยิงได้ถึงสองครั้ง ช่วยให้ทีมพลิกกลับมาชนะ 4-3 ได้อย่างสุดดราม่า ฟอร์มการเล่นแบบนี้ไม่เพียงทำให้เขาเป็นที่รักของแฟนบอล แต่ยังยืนยันได้ว่าเขาคือหัวใจสำคัญในแนวรุกของเชลซี
ความหวังใหม่ของสโมสร ผู้นำแห่งยุคใหม่ของเชลซี
ภายใต้การคุมทีมของเอ็นโซ มาเรสกา เชลซีกำลังอยู่ในโปรเจ็กต์สร้างทีมใหม่ที่เน้นความสดและพลังของนักเตะหนุ่ม โคล พาลเมอร์ ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในแกนหลักของยุคใหม่นี้ ด้วยความสามารถรอบด้านในแนวรุกและความมุ่งมั่นที่ไม่มีวันหยุด
พาลเมอร์ไม่ได้แค่เป็นผู้เล่นที่ช่วยสร้างโอกาสในสนาม แต่ยังเป็นตัวแทนของความทะเยอทะยานของสโมสร เป้าหมายของเขาคือการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และทำให้เชลซีกลับมาเป็นทีมที่ครองความสำเร็จในระดับสูงสุดอีกครั้ง ความสามารถของเขาไม่เพียงช่วยให้ทีมมีความมั่นใจ แต่ยังดึงดูดความเชื่อมั่นจากแฟนบอลและสร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนร่วมทีม ในทีมเชลซีปัจจุบัน พาลเมอร์คือทั้งผู้นำในเกมสำคัญและความหวังแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการทำประตูในช่วงเวลาที่กดดันที่สุด หรือการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่พร้อมจะพัฒนา เขาคือนักเตะที่แฟนบอลสิงห์บลูส์พร้อมฝากความหวังไว้ในการพาทีมไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
พาลเมอร์ อนาคตที่เปล่งประกายและความฝันที่ใกล้ถึง
โคล พาลเมอร์ ไม่ใช่แค่ดาวรุ่งที่ฉายแสงในสนามฟุตบอลในอังกฤษ แต่ยังถูกมองว่าเป็นนักเตะที่อาจก้าวขึ้นมาเป็นตำนานของเชลซีในอนาคต ด้วยผลงานที่โดดเด่นตั้งแต่ฤดูกาลแรกในสีเสื้อสิงห์บลูส์ เขาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่พร้อมจะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และความสามารถในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเกมสำคัญ
ศักยภาพที่พร้อมก้าวสู่ตำนาน
หลายคนมองว่าพาลเมอร์มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเป็นตำนานของเชลซี เขามีทั้งทักษะ ความนิ่ง และความมุ่งมั่นในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นการยิงจุดโทษในสถานการณ์ที่กดดันที่สุด หรือการสร้างโอกาสในสนาม ทุกจังหวะของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและความสามารถในการตัดสินเกม
การเปรียบเทียบกับตำนานเชลซี
พาลเมอร์ถูกเปรียบเทียบกับนักเตะในตำนานอย่าง เอเด็น อาซาร์ และ จิอันฟรังโก โซลา ซึ่งทั้งสองคนคือผู้เล่นที่เคยเป็นตัวสำคัญในแนวรุกของเชลซี ความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างสรรค์เกมของพาลเมอร์ ทำให้แฟนบอลเริ่มมองว่าเขาอาจก้าวไปถึงระดับเดียวกับอาซาร์ ขณะเดียวกัน ความนิ่งและไหวพริบของเขาในสนามยังสะท้อนถึงคุณสมบัติที่คล้ายกับโซลา
ความคาดหวังจากแฟนบอลและผู้จัดการทีม
ในสายตาของแฟนบอล เชลซีต้องการผู้เล่นที่สามารถเป็นผู้นำในสนามและพาทีมกลับคืนสู่ยุครุ่งเรืองได้ พาลเมอร์คือความหวังนั้น เอ็นโซ มาเรสกา ผู้จัดการทีมเองยังเคยกล่าวว่าเขาเป็น “ผู้เล่นที่ไม่ธรรมดา” และเชื่อมั่นว่าเขาจะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของทีม อนาคตของโคล พาลเมอร์เต็มไปด้วยความหวังและโอกาสที่จะสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเชลซี สำหรับแฟนบอล นี่คือช่วงเวลาที่ต้องจับตามอง เพราะ “น้องหนาว” คนนี้อาจกลายเป็นชื่อที่ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของสิงห์บลูส์ตลอดไป!
เมื่อพูดถึงพาลเมอร์ สิ่งที่สะท้อนออกมาชัดเจน คือ ความสำคัญของเขาต่อเชลซีในทุกแง่มุม ตั้งแต่ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมในเกมสำคัญ ไปจนถึงทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ในสนาม พาลเมอร์ไม่ได้เป็นเพียงนักเตะดาวรุ่งที่เชลซีโชคดีได้มา แต่เขาคือศูนย์กลางของอนาคตที่สดใสของสโมสร
ด้วยพรสวรรค์และความนิ่งที่หาได้ยาก พาลเมอร์ได้สร้างความประทับใจทั้งต่อแฟนบอล เพื่อนร่วมทีม และผู้จัดการทีม เขาคือเครื่องพิสูจน์ว่าความสำเร็จไม่จำเป็นต้องเกิดจากการเป็นที่จับตามองตั้งแต่แรก แต่เกิดจากการทำงานหนักและการไม่หยุดพัฒนาตัวเอง เส้นทางของพาลเมอร์ยังอีกยาวไกล และทุกย่างก้าวของเขาย่อมเต็มไปด้วยโอกาสใหม่ ๆ สำหรับแฟนบอลเชลซี “น้องหนาว” คนนี้ไม่ใช่แค่ความหวังของฤดูกาลนี้ แต่เป็นความหวังระยะยาวที่อาจเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของทีมไปตลอดกาล แน่นอนว่าอนาคตของเขาจะเป็นสิ่งที่น่าติดตาม และเขาอาจกลายเป็นหนึ่งในชื่อที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในโลกฟุตบอลในยุคต่อไปอย่างไม่ต้องสงสัย!
คำถามที่พบบ่อย
- ที่มาของฉายาว่า “น้องหนาว” มาจากไหน?
พาลเมอร์ เป็นนักฟุตบอลดาวรุ่งวัย 22 ปี ชาวอังกฤษ ที่เติบโตจากอคาเดมีของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนย้ายมาเล่นให้เชลซีในปี 2023 ฉายา “น้องหนาว” มาจากบุคลิกที่สงบนิ่งและการควบคุมอารมณ์ในสนาม โดยเฉพาะในช่วงกดดันอย่างการยิงจุดโทษ ที่เขามักทำได้อย่างแม่นยำและมั่นใจเสมอ - จุดเด่นของพาลเมอร์ในสนามคืออะไร?
พาลเมอร์มีจุดเด่นในเรื่องความสารพัดประโยชน์ในแนวรุก เขาสามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง เช่น ปีกซ้าย ปีกขวา เพลย์เมกเกอร์ หรือแม้กระทั่งกองหน้าตัวหลอก (False 9) นอกจากนี้ เขายังมีทักษะการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในการอ่านเกมที่ช่วยสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม - พาลเมอร์มีผลงานเด่นอะไรบ้างในสีเสื้อเชลซี?
ในฤดูกาลแรกกับเชลซี พาลเมอร์ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ด้วยการยิงจุดโทษ 100% และมีส่วนสำคัญในชัยชนะหลายเกมสำคัญ เช่น เกมที่เชลซีเสมอกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-4 ซึ่งเขายิงจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ หรือเกมพลิกชนะท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 4-3 ที่เขายิงจุดโทษถึงสองครั้ง - อนาคตของพาลเมอร์กับเชลซีเป็นอย่างไร?
พาลเมอร์ได้รับการยกย่องว่าเป็นความหวังใหม่ของเชลซี ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยหยุดพัฒนา เขาอาจกลายเป็นตำนานคนต่อไปของสโมสร และมีบทบาทสำคัญในการพาทีมกลับสู่ยุครุ่งเรืองในพรีเมียร์ลีก แฟนบอลต่างคาดหวังว่าเขาจะเป็นแกนหลักในทีมระยะยาว และสร้างความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ให้กับเชลซีในอนาคต